EXPLORE THE PROJECT
(Container Terminal E&F )
(Coastal Terminal)
เขื่อนกันคลื่นของโครงการมีดังนี้
เขื่อนล้อมพื้นที่ถมสามารถแบ่งออกได้เป็น 8 ประเภท ได้แก่
พิจารณาความสอดคล้องกับกิจกรรมของโครงการ ประกอบด้วย
ย่านรถไฟโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 มี 2 ย่านรถไฟ โดยมีจุดเริ่มต้นบริเวณก่อนถึงย่านรถไฟ SRTO เดิม ไปยังพื้นที่หลังท่าเรือขนส่งตู้สินค้าชุด F และท่าเรือขนส่งตู้สินค้าชุด E
พื้นที่แนวหลังท่าเรือ (Hinterland) คือพื้นที่ส่วนภาคพื้นดิน ที่อยู่หลังท่าเรือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับกิจกรรมของท่าเรือ และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ ปริมาณของสินค้า และประเภทของสินค้า
ที่ผ่านท่าเรือดังกล่าว ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างท่าเรือ และพื้นที่หลังท่านั้นประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลายประการ อาทิ โครงข่ายคมนาคม ในการเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือ กับพื้นที่แนวหลังท่าเรือ รวมถึงผลผลิตของพื้นที่แนวหลังท่าเรือ ความต้องการในการนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต และการส่งออกผลผลิต ซึ่งจะส่งผลต่อประเภทและปริมาณของสินค้าผ่านท่าเรือ นอกจากนั้น มาตรการสนับสนุนจากทางภาครัฐก็จะมีผลต่อทำเลที่ตั้ง ท่าเรือและโครงข่ายคมนาคมที่เชื่อมโยงท่าเรือกับพื้นที่แนวหลังด้วย
พื้นที่แนวหลังท่าเรือ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
พื้นที่ภาคพื้นดินที่อยู่ประชิดกับท่าเรือ (Primary Hinterland) ซึ่งอยู่ประชิดกับทางท่าเรือ โดยท่าเรือที่มี (Primary Hinterland) ขนาดใหญ่จะยิ่งส่งผลให้ปริมาณสินค้าที่ผ่านท่าเรือนั้นมากตามไปด้วย อาทิ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมฉบัง ประมาณ 2 กิโลเมตร การขนส่งสินค้าจึงขนส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบังเป็นหลัก
พื้นที่แนวหลังที่อยู่ไกลออกไปจากท่าเรือ (Competitive Hinterland) โดยขอบเขตของพื้นที่แนวหลังท่าเรือประเภทนี้ อาจจะอยู่ห่างออกไป หรืออาจจะอยู่คนละประเทศก็ได้ โดยผ่านการเชื่อมโยงของโครงข่ายคมนาคม ดังนั้น ท่าเรือที่มีโครงข่ายคมนาคมยิ่งกว้างและไกลออกไปเท่าไหร่ พื้นที่แนวหลังท่า ก็จะยิ่งกว้างและไกลออกไปเท่านั้น อาทิ ICD ลาดกระบัง ซึ่งเป็นพื้นที่แนวหลังท่าเรือที่อยู่ห่างออกไปจากท่าเรือแหลมฉบัง โดยโครงข่ายคมนาคม รถไฟในการเชื่อมโยงดังกล่าว